LIVE UPDATE ยูโรป้าลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด - โคเปนเฮเก้น
ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2019-2020 รอบ 8 ทีม ซึ่งปรับมาแข่งขันแบบนัดเดียวจบ เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดวลกับ เอฟซี โคเปนเฮเก้น โดยเตะในสนามกลางนั่นคือ ไรน์ เอเนอร์กี้ สตาดิโอน เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมัน
โอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือปีศาจแดง เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 โดยใช้หน้าเป้าเป็น อ็องโตนี มาร์กซิยาล คอยทำเกมรุกร่วมกับ เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน แฟร์นันด์ส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด
ด้านทีมจากเดนมาร์กของ สตาเล โซลบาคเคน วางหมากมาในแผน 4-3-3 ด้วยการสามประสานแนวรุกในแดนหน้าเป็น โมฮาเหม็ด ดารามี, โยนาส วินด์ และ ราสมุส ฟาลค์
ครึ่งแรกเป็นฝั่งของยูไนเต็ดซึ่งครองบอลบุกได้เหนือกว่า และส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้แล้วด้วย ในนาทีที่ 45+1 จากจังหวะที่ แรชฟอร์ด โหม่งเช็ดทะลุช่องให้ กรีนวู้ด หลุดไปยิงด้วยขวาเช็ดเสาไกลเข้าไป ทว่าเมื่อผู้ตัดสินเช็คกับทีมงาน VAR ก็พบว่า กรีนวู้ด นั้นล้ำหน้าอยู่ก่อน ทำให้จบครึ่งแรกสกอร์ยัง 0-0
ครึ่งหลังแม้ว่าปีศาจแดงจะพยายามเร่งเครื่องบุกหนักยิ่งกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่เฉียบคมที่จะพังประตูขึ้นนำได้เลย ทำให้จบเกมเวลาปกติ 90 นาที ด้วยผลเสมอ 0-0 ต้องสู้กันในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 95 อดีตแชมป์เมื่อปี 2017 มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ มาร์กซิยาล ไปโดน อันเดรียส เบลลันด์ เหนี่ยวข้างหลังจนล้มลงไป ก่อนจะเป็น บรูโน แฟร์นันด์ส รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ส่งให้ทีมจากอังกฤษขึ้นนำ 1-0
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกม 120 นาทีเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเฉือนชนะหวุดหวิด 1-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปรอพบผู้ชนะคู่วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่จะพบกับเซบีญา คืนวันอังคารนี้
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนฯ ยูฯ (4-2-3-1) : เซร์คิโอ โรเมโร; อารอน วาน-บิสซาก้า, เอริค ไบญี (วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ น.71), แฮร์รี แม็คไกวร์, แบรนดอน วิลเลียมส์; ปอล ป็อกบา, เฟร็ด (เนมานยา มาติช น.70); เมสัน กรีนวู้ด (ฆวน มาต้า น.90), บรูโน แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด (เจสซี ลินการ์ด น.113); อ็องโตนี มาร์กซิยาล (สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ น.120+1)
สำรองไม่ได้ใช้ : ดาบิด เด เคอา, อันเดรียส เปเรรา, แดเนียล เจมส์, ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์, โอเดียน อิกาโล, ตาฮิธ ชอง, เทเดน เมนกี้
ใบเหลือง - แฮร์รี แม็คไกวร์ น.62, เอริค ไบญี น.63
โคเปนเฮเก้น (4-3-3) : คาร์ล-โยฮัน ยอห์นส์สัน; กิเยร์โม บาเรลา (คาร์โล บาร์โตเลช น.105), วิคเตอร์ เนลส์สัน, อันเดรียส เบลลันด์, นิโคไล บอยเลเซน (ปิแอร์ เบงต์สสัน น.15); เป๊ป บิเอล (ไบรอัน โอเวียโด้ น.58), เยนส์ สตาเก้ (โรเบิร์ต มูดราซิยา น.105), เซก้า; โมฮาเหม็ด ดารามี (มิคเคล เคาฟ์มันน์ น.57), โยนาส วินด์, ราสมุส ฟาลค์ (วิลเลียม โบวิง น.111)
สำรองไม่ได้ใช้ : สเตฟาน แอนเดอร์เซน, โซติริออส ปาปาจานโนปูลอส, สเตน กรีเตบูสต์, อเล็กซานเดอร์ เฮล์มฮอฟ
ใบเหลือง - มิคเคล เคาฟ์มันน์ น.75, เยนส์ สตาเก้ น.77, เซก้า น.105+3
โปรแกรมถ่ายทอดสด
| TV station |
เช็คโปรแกรมถ่ายทอดสดทุกคู่ได้ทีนี่
วันและเวลาแข่งขัน?
| เกม | แมนฯ ยูไนเต็ด - โคเปนเฮเก้น |
| วันที่ | คืนวันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม 2563 |
| เวลา | 2.00 น. (เช้ามืดวันอังคาร) |
| สนาม | ไรน์ เอเนอร์กี้ สตาดิโอน |
สภาพความพร้อมก่อนเกมของทั้งสองทีม
แมนฯยูไนเต็ด เกมนี้จะยังไม่มี ลุค ชอว์, อาเซล ตวนเซเบ้ และ ฟิล โจนส์ ที่มีอาการบาดเจ็บ นอกนั้นพร้อมลงสนาม แนวรับคาดว่าจะใช้ แฮร์รี แม็คไกวร์ จับคู่กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ แดนกลางนำทัพโดย เนมานยา มาติช ประสานงานกับ ปอล ป๊อกบา ขณะที่แนวรุกคาดว่าจะใช้ เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน แฟร์นันด์ส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด คอยปั้นเกมอยู่ด้านหลัง อ็องโตนีย์ มาร์กซิยัล
โคเปนเฮเก้น อยู่ในสภาพทีมที่สมบูรณ์ ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบน แนวรับได้ วิคเตอร์ เนลส์สัน ฟิตกลับมาจับคูากับ อันเดรียส เบลแลนด์ ได้ทันเวลา แดนกลางใช้ เซก้า ประสานงานกับ โรแบร์ มูดราซิจา แนวรุกมี เป๊ป บิเอล, โยนาส วินด์ และ ราสมุส เยนเซน คอยทำเกมรุกอยู่ด้านหลัง มิเชล ซานโต๊ส ที่ยืนเป็นหัวหอก
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯยูไนเต็ด
โรเมโร(GK)
วาน -บิสซาก้า, ลินเดอเลิฟ, แม็คไกวร์, วิลเลียมส์
มาติช, ป๊อกบา
กรีนวู้ด, บรูโน, แรชฟอร์ด
มาร์กซิยัล
โคเปนเฮเก้น
จอห์นสัน(GK)
บาเรลา, เนลส์สัน, เบลแลนด์, บอยเลเซน
เซก้า, มูดราซิจา
บิเอล, วินด์, เยนเซน
ซานโต๊ส
ผลการแข่งขันรอบที่ผ่านมา
แมนฯยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบมาแบบไม่ยากเย็นนักเมื่อถล่ม ลาสค์ ลินซ์ ขาดลอยด้วยประตูรวมสองนัด 7-1 ขณะที่ โคเปนเฮเก้น ฝ่าด่าน อิสตันบูล บาซัคเซฮิร มาด้วยประตูรวม 3-1
ต ิ ดตามข่าว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
"ต่อ" - Google News
August 11, 2020 at 04:40AM
https://ift.tt/30IeBqo
จุดโทษนำชัย! แมนฯ ยูฯ เหนื่อยต่อเวลาบดโคเปนเฮเก้น 1-0 - Goal.com
"ต่อ" - Google News
https://ift.tt/2TWExL0
No comments:
Post a Comment