Pages

Saturday, August 8, 2020

หมัดต่อหมัด! “แคนาดา” จ่อเรียกภาษีสินค้าสหรัฐฯ กลับ ตอบโต้ถูกเก็บภาษีอะลูมิเนียม 10% - Positioning Magazine

tapalkila.blogspot.com
(Photo by Mark Wilson/Getty Images)
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คริสเทีย ฟรีแลนด์ รองนายกรัฐมนตรีแคนาดา เผยว่าแคนาดาจะเรียกเก็บภาษี 3.6 พันล้านดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 8.4 หมื่นล้านบาท) สำหรับสินค้าของสหรัฐฯ เป็นการตอบโต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บภาษีอะลูมิเนียมของแคนาดา 10% อีกครั้ง

ฟรีแลนด์กล่าวในการแถลงข่าวว่ามาตรการภาษีตอบโต้ดังกล่าวจะมีผลใน 30 วันหลังจากรัฐบาลแคนาดาขอความเห็นจากชาวแคนาดาอย่างละเอียดว่าจะกำหนดเป้าหมายที่ผลิตภัณฑ์ใดของสหรัฐฯ และเสริมว่า “แคนาดาจะตอบโต้อย่างรวดเร็ว และรุนแรง”

เมื่อบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 6 ส.ค. ทรัมป์ประกาศว่าจะกำหนดอัตราภาษีใหม่สำหรับอะลูมิเนียมดิบนำเข้าของแคนาดาตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. เป็นต้นไป โดยอ้างถึงความกังวลด้านความมั่นคงของชาติ

ฟรีแลนด์กล่าวว่าข้อคิดเห็นที่ว่าอะลูมิเนียมของแคนาดาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ นั้น “เป็นความคิดที่น่าหัวเราะ”

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา

เธอกล่าวว่าสหรัฐฯ เลือกที่จะจุดประเด็นความขัดแย้งทางการค้าครั้งใหม่ด้วยการเรียกเก็บภาษีอะลูมิเนียมของแคนาดา “ซึ่งรังแต่จะทำร้ายการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย”

ฟรีแลนด์เสริมว่ารัฐบาลทรัมป์เป็น “ฝ่ายบริหารที่กีดกันการค้ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ”

ทั้งนี้ เมื่อเย็นวันพฤหัสบดีที่ 6 ส.ค. จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ให้คำมั่นว่าจะดำเนินมาตรการตอบโต้หลังจากทรัมป์ประกาศการตัดสินใจกำหนดอัตราภาษีนำเข้าอะลูมิเนียมของแคนาดาอีกครั้ง ”เราจะยืนหยัดเคียงข้างแรงงานอะลูมิเนียมของเราดังเช่นตอนปี 2018 เราจะต่อสู้เพื่อพวกเขาอีกครั้ง”

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้กำหนดอัตราภาษี 10% สำหรับอะลูมิเนียมของแคนาดาในเดือนมีนาคม 2018 และจากนั้นแคนาดาก็ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้าของสหรัฐฯ จำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่อมาทางสหรัฐฯ ก็ยกเลิกกฎเกณฑ์ดังกล่าวตามข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือฉบับใหม่

Let's block ads! (Why?)



"ต่อ" - Google News
August 08, 2020 at 02:54PM
https://ift.tt/2DOi9yd

หมัดต่อหมัด! “แคนาดา” จ่อเรียกภาษีสินค้าสหรัฐฯ กลับ ตอบโต้ถูกเก็บภาษีอะลูมิเนียม 10% - Positioning Magazine
"ต่อ" - Google News
https://ift.tt/2TWExL0

No comments:

Post a Comment