
ลุงวัย 63 ปี ด่านขุนทด เคราะห์ร้ายนอนเปลญวนใต้ถุนบ้าน รังต่อร่วงจากต้นไม้ตกลงข้างเปลกรูเข้ารุมต่อย หนีขึ้นบนบ้านใช้ผ้าคลุมแต่ไม่มิด เท้าโผล่ โดนต่อยอีก สุดท้ายญาตินำส่ง รพ.แต่พิษต่อทำลายไตเสียชีวิตอนาถ
วันที่ 19 มิ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้านบุ่งระกำ หมู่ 8 ต.หนองบัวละคร อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ว่า นายวิโรจน์ แก้วพลกรัง อายุ 63 ปี อยู่ที่บ้านบุ่งระกำ ถูกตัวต่อต่อยเสียชีวิต จึงเดินทางไปตรวจสอบที่หมู่บ้านดังกล่าว
พบว่าบ้านของผู้ตาย เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง มีใต้ถุนโล่ง หน้าบ้านมีต้นยางอินเดียขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ 1 ต้น ใต้ถุนบ้านมีเปลญวน 1 เปล โดย นายประสิทธิ์ จุขุนทด อายุ 79 ปี น้องเขยของผู้ตาย ที่มีบ้านอยู่ใกล้กัน เล่าว่า นายวิโรจน์ ถูกต่อต่อยเสียชีวิตจริง ขณะนี้ญาติกำลังติดต่อรับศพที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา เพื่อนำมาบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านเขื่อน
พร้อมกับเล่าต่อไปว่า ผู้ตายอดีตเป็นรองนายก อบต.หนองบัวละคร ปกติผู้ตายอยู่บ้านคนเดียว หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานเกษตร ก็จะมานอนเปลญวนที่ใต้ถุนบ้าน ที่มีต้นยางอินเดียขนาดใหญ่อยู่ข้างบ้านเป็นประจำ จนช่วงบ่ายวันที่ 18 มิ.ย. ได้มานอนเปลญวนเหมือนเช่นทุกวัน จู่ๆ รังต่อหัวเสือที่ทำรังอยู่กับต้นไม้ก็หล่นลงมาข้างเปลผู้ตาย เพราะก่อนหน้านี้ฝนตกติดต่อกันมา 2-3 วัน ทำให้รังต่อเปียกน้ำฝน จนรับน้ำหนักไม่ไหว และรังใหญ่มาก หล่นลงมาจนรังแตกกระจาย ทำให้ตัวต่อกรูเข้ารุมต่อยนายวิโรจน์ ซึ่งตกใจมากรีบวิ่งหนีขึ้นไปบนบ้าน แล้วใช้ผ้าห่มนวมคลุมตัวเอาไว้ แต่คลุมไม่มิด เท้าโผล่ออกมา ตัวต่อเลยรุมต่อยเท้านายวิโรจน์ จนนายวิโรจน์เจ็บปวดทนไม่ไหว วิ่งลงมาบอกตนและญาติข้างบ้าน ก่อนมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว หนาวสั่น แน่นหน้าอก และหายใจไม่ออก ตนจึงบอกให้ลูกหลานพาไปโรงพยาบาลด่านขุนทด และส่งต่อไป รพ.มหาราชนครราชสีมา ก่อนจะเสียชีวิตในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา

ขณะที่ นางปราณี แก้วพลกรัง อายุ 59 ปี ภรรยาของผู้ตาย ซึ่งแยกกันอยู่คนละบ้าน เปิดเผยว่ารู้สึกตกใจมาก ขณะเกิดเหตุ ตนขายของอยู่ที่ตลาดด่านขุนทด จึงตามไปดูอาการนายวิโรจน์ ที่ รพ.ด่านขุนทด แต่หมอไม่ให้เข้าในห้องฉุกเฉิน เพราะคนไข้อาการหนักมาก จนปัสสาวะออกมาเป็นเลือด แล้วหมอก็ส่งต่อไป รพ.มหาราชฯ เวลาประมาณ 3 ทุ่ม เมื่อถึง รพ.มหาราช หมอรีบรักษา แต่พิษของต่อเข้าไปทำลายการทำงานของไต และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงให้ญาติอยู่รอรับศพ ส่วนตนกลับมาจัดการเตรียมงานที่วัด
ทางด้าน นายพีระพงษ์ เกษระกำ และ นายนรินทร์ เพราะขุนทด หลานของผู้ตาย เล่าว่า รังต่อมีขนาดใหญ่มาก ประมาณ 7 ชั้น พอตกเวลากลางคืนพวกตนได้ช่วยกันใช้คบเพลิงเผารังต่อบนพื้น เพราะยังมีตัวต่ออีกจำนวนมาก โดยธรรมชาติตัวต่อจะบินเข้าหาคบเพลิง เพราะคิดว่าจะเป็นศัตรู ทำให้ตัวต่อตายเกือบหมด ที่เหลือบางส่วนไม่กี่ตัวก็จะบินหนีขึ้นสู่ยอดไม้ ซึ่งต่อหัวเสือนั้นมีพิษมาก ถ้าเกิดมาทำรังใกล้บ้านเรือน ควรจะทำลายหรือไล่ให้หนีไป เพราะเป็นอันตรายกับคนมาก
อ่านเพิ่มเติม...
"ต่อ" - Google News
June 19, 2020 at 08:45PM
https://ift.tt/2AUgyWL
ต่อหัวเสือดุ รังแตกรุมต่อยลุง 63 ดับ หนีไปคลุมโปงยังไม่รอด - ไทยรัฐ
"ต่อ" - Google News
https://ift.tt/2TWExL0
No comments:
Post a Comment