Pages

Sunday, September 20, 2020

ททท.กระตุกต่อมคิดท่องเที่ยวแบบ "ลดโลกเลอะ" - ไทยรัฐ

tapalkila.blogspot.com

คนไทยจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะบรรดาสายเที่ยวน่าจะคุ้นชินกับคำว่า “ลดโลกเลอะ” หนึ่งในแคมเปญที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สร้างขึ้น เพื่อรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) ต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

จริง ๆ แล้วคำว่า “การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ” ถูกนิยามขึ้นมาเมื่อ 18 ปีก่อน หรือในปี 2545 ในการประชุม World Summit ว่าด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืน ณ เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ ต่อมาในปี 2550 ในการประชุม World Tourism Market (WTM) ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีการสื่อความหมายโดยรวมไปถึง การท่องเที่ยวที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

ประเทศไทยเอง ททท.ในฐานะหน่วยงานที่ส่งเสริมการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ให้คนไทยและชาวต่างประเทศเดินทางท่องเที่ยว ให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในอีกมุมหนึ่งการเดินทางท่องเที่ยวก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อม มีส่วนทำให้ทรัพยากรธรรมชาติเสื่อมโทรมลง

ททท.ตระหนักถึงความสำคัญของผลกระทบดังกล่าว จึงให้ความสำคัญกับการจัดการการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ซึ่งหมายถึง การจัดการท่องเที่ยวโดยส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด จึงได้จัดโครงการและกิจกรรมต่างๆ ขึ้นมาสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็น “โครงการ 7 Greens” “โครงการเที่ยวไทยเท่ ไม่สร้างขยะ ลดโลกเลอะ” “โครงการ Green A La Carte :เมนูท่องเที่ยวสีเขียวเลือกได้ตามใจคุณ” เพื่อช่วยลดผลกระทบ และรักษาทรัพยากรทางการท่องเที่ยวให้ดำรงอยู่

ขณะที่ในปี 2563 อันเป็นปีที่ ททท. ครบ 60 ปีแห่งการสถาปนา ได้กำหนดในกิจกรรมการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวร่วมกันรับผิดชอบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Responsible Tourism) เป็นหนึ่งนโยบายหลัก ที่จะลดปริมาณขยะในแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งทำกิจกรรมเพื่อสังคมตลอดทั้งปี

“ทวีเดช ทองอ่อน” ผู้อำนวยการกองบริหารความยั่งยืน ททท. ให้ความเห็นว่า จากการรณรงค์การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เช่น โครงการ “ลดโลกเลอะ” มาตลอด 3 ปี ถือว่าประสบความสำเร็จในการสร้างการตระหนักรู้ทั้งเจ้าบ้านและผู้มาเยือน ไม่ว่าจะเป็น ผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก หน่วยงานภาครัฐ ชุมชนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยว

“เช่น เมื่อปลายปี 2562 มีกรุ๊ปนักท่องเที่ยวไปดำน้ำที่ จ.กระบี่ พบว่า เรือที่พานักท่องเที่ยวไปดำน้ำ เปลี่ยนการเสิร์ฟอาหารกลางวันจากใช้กล่องโฟม เป็นจัดบุฟเฟต์ ทานเสร็จก็ช่วยกันล้างจาน ไม่ต้องทิ้งกล่องโฟมให้กลายเป็นขยะ ลดขยะให้โลก ลดขยะให้ท้องทะเล”

ขณะเดียวกัน ททท.ได้จัดกิจกรรม “amazing ไทยเท่ ไม่สร้างขยะ ลดโลกเลอะ” เป็นการทำกิจกรรมเพื่อสังคมและดูแลสิ่งแวดล้อมในแหล่งท่องเที่ยว เพื่อเน้นย้ำและนำสู่การปฏิบัติอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น ประกอบด้วยกิจกรรมเพื่อสังคมในแหล่งท่องเที่ยวและชุมชน ที่ตำบลบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี มีการจัดกิจกรรมการเก็บขยะ การคัดแยกขยะ และการเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน จิตอาสาได้มาเรียนรู้ร่วมกันและมาช่วยกันรักษาแหล่งท่องเที่ยวของไทยให้สวยงาม เพื่อขยายผลการปฏิบัติตามภารกิจหลักของ ททท.

นอกจากนี้ การทำงานที่ผ่านมา ททท.เริ่มจากคนในองค์กรและขยายไปคนนอกองค์กร เช่น เวลามีการจัดงานและการจัดกิจกรรมต่าง ๆ จะรณรงค์ให้คนหันมาใช้ถุงผ้าซ้ำแทนการรับถุงพลาสติก รณรงค์ให้ใช้กล่องข้าวส่วนตัวในการซื้ออาหาร และให้พกกระบอกน้ำติดตัวเพื่อซื้อเครื่องดื่มทดแทนการรับแก้พลาสติกใช้แล้วทิ้งจากร้านค้า

เขาบอกว่า ช่วงต้นปี 2563 หลายภาคส่วนตระหนักกันยิ่งขึ้นในการลดการใช้ถุงพลาสติก ยิ่งเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบ เพราะความเสี่ยงที่แหล่งท่องเที่ยว เช่น ทะเล ภูเขา แม่น้ำ จะมีขยะเพิ่มก็ลดลง แต่พอเกิดการระบาดของโควิด-19 คน Work From Home ได้เกิดสองสิ่งขึ้นมา สิ่งแรก คือพฤติกรรมการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ ส่งตรงถึงบ้าน ทำให้การใช้พลาสติกกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ก็นั่นแหละกับอีกสิ่งเมื่อคนถูกล็อกดาวน์อยู่กับบ้าน แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติได้รับการพักผ่อน การถูกทำลายและการทิ้งขยะลดลง ธรรมชาติจึงกลับมาสมบูรณ์ขึ้น

ดังนั้น เพื่อไม่ให้สิ่งที่เคยทำดีไว้หายไป ททท.จะเดินหน้ารณรงค์ การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ด้วยคำสั้น ๆ และเข้าใจง่ายแบบ “ลดโลกเลอะ” ต่อไป เพื่อรักษาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กลับมาฟื้นตัวให้สมบูรณ์ และส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม (Preferred Destination) ในใจคนทั่วโลกอย่างยั่งยืนตลอดไป

อ่านเพิ่มเติม...

Let's block ads! (Why?)



"ต่อ" - Google News
September 21, 2020 at 10:20AM
https://ift.tt/2FN4BV5

ททท.กระตุกต่อมคิดท่องเที่ยวแบบ "ลดโลกเลอะ" - ไทยรัฐ
"ต่อ" - Google News
https://ift.tt/2TWExL0

No comments:

Post a Comment