Pages

Saturday, June 13, 2020

ไทยไม่ติดโควิด 19 วัน แล้ว ให้ยกการ์ดต่อ - ไทยรัฐ

tapalkila.blogspot.com

อันดับ 1 เอเชีย! คว้าที่ 2 ของโลก ฟันตัวจากไวรัส

ปลื้มไทยฟื้นตัวเร็วอันดับ 2 โลก

นพ.โสภณกล่าวอีกว่า การจัดอันดับประเทศที่ฟื้นตัวจากโควิด-19 ใน 184 ประเทศทั่วโลก พบว่าประเทศไทยฟื้นตัวเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากประเทศออสเตรเลีย และเป็นอันดับที่ 1 ของเอเชีย ซึ่งเป็นการจัดอันดับจากองค์กร Global COVID-19 โดยความร่วมมือของกระทรวงวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม (MOSTI) ประเทศมาเลเซีย และกลุ่ม Sunway คิดคะแนนจากการยืนยันต่อประชากรเทียบกับขนาดของแต่ละประเทศ สัดส่วนการเสียชีวิตเมื่อเทียบกับขนาดประชากร และคะแนนดัชนีความมั่นคงด้านสุขภาพโลก (GHS) เพื่อประเมินความพร้อมของประเทศในการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19

ขอความร่วมมืออย่าการ์ดตก

ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไปกล่าวด้วยว่า การที่ประเทศไทยได้คะแนนการฟื้นตัวจากโควิด-19 เป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นความร่วมมือของประชาชนที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ยังคงขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอ อย่าประมาท คงเข้มการป้องกันตัวเองสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน หรือเคหสถาน ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่น 1-2 เมตร ไม่นำมือสัมผัสใบ หน้า ตา จมูก ปาก หากมีการสวมเฟซชิลด์ควรสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าร่วมด้วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่แออัด มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก และจำกัดระยะเวลาการใช้บริการในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งเป็นเวลาสั้นเพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อ

ทบ.คุมเข้ม 11 พื้นที่กักตัว

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกยังคงสนับสนุนรัฐบาลและช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง จัดกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจช่วยคัดกรองการผ่านเข้าประเทศตามท่าอากาศยานและด่านชายแดน รวมทั้งการดูแลพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) กองทัพบกได้มอบหมายให้โรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบกและกองพันทหารเสนารักษ์รับผิดชอบ ภายใต้การบริหารจัดการของกรมแพทย์ทหารบก และศูนย์บริหารสถานการณ์ COVID-19 กองทัพบก จัดชุดคัดกรอง ชุดปฐมพยาบาล และชุดรักษาความปลอดภัยดูแลผู้เข้ารับการกักตัว ส่วนใหญ่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.ถึงปัจจุบันยังคงรับผิดชอบ State Quarantine 11 แห่ง พื้นที่ล่าสุดคือ โรงแรมชลจันทร์พัทยาบีช เริ่มเปิดรับผู้กักตัววันที่ 13 มิ.ย.โดยมีผู้เข้ารับกักตัวในพื้นที่ควบคุมแห่งรัฐที่ ทบ.รับผิดชอบมียอดสะสม 9,044 คน ณ วันที่ 12 มิ.ย.ยังคงพักอยู่ 3,434 คน

กักตัวคนไทยกว่า 4.5 หมื่นคน

ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลัง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกกระทรวงกลาโหม ประชุมร่วมกับ กอ.รมน. นขต.กห.และเหล่าทัพ เพื่อติดตามการบริหารจัดการมาตรการกักตัวควบคุมโรคของรัฐ ณ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กห.ในศาลาว่าการกลาโหมว่า คนไทยที่เดินทางผ่านสายการบินกลับจากต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.ถึงปัจจุบัน และเข้าสู่สถานที่กักกันตัวของรัฐ (State Quarantine) จำนวน 20,165 คนในสถานกักกันตัวที่กำหนด 36 แห่ง พบผู้ติดเชื้อและส่งเข้ารักษาระหว่างกักตัว 104 ราย ส่งกลับภูมิลำเนาแล้ว 13,623 คน ยังอยู่ระหว่างพักกักตัว 6,533 คน ส่วนคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศรอบบ้านผ่านช่องทางผ่านแดนทางบก และเข้าสู่สถานที่กักกันตัวในพื้นที่จังหวัด (Local Quarantine) ที่กำหนด รวม 25,835 คน ใน 878 สถานที่ 77 จังหวัดยังอยู่ระหว่างพักกักตัว 4,902 คน

รพ.พังงาเปิดห้องตรวจโควิด

ส่วนมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในต่างจังหวัด ที่โรงพยาบาลพังงา จ.พังงา นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผวจ.พังงา พร้อมด้วย พญ.ทิพรัตน์ ต้นสกุลประเสริฐ ผอ.รพ.พังงา นายบำรุง ปิยนามวาณิช นายก อบจ.พังงา ร่วมเปิดห้องปฏิบัติการการตรวจวิเคราะห์เชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับ รพ.พังงา ใช้งบประมาณ 8,725,000 บาท สำหรับห้องปฏิบัติการดังกล่าวสามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 และเชื้อไวรัส HPV เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก ไวรัสไข้เลือดออก ไวรัสไข้หวัดใหญ่ และไวรัสก่อโรคอุจจาระร่วงรุนแรงในเด็กจะช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรคได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงเป็นข้อมูลในการวางแผนการควบคุมพื้นที่เสี่ยง และเฝ้าระวังประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้เร็วยิ่งขึ้น ลดการใช้ทรัพยากรและงบประมาณในการดูแลผู้ป่วยเข้าเกณฑ์การสอบสวน ส่วนผู้ที่ต้องการตรวจเชื้อโควิด-19 โดยไม่เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค สามารถเข้ารับบริการได้โดยมีค่าใช้จ่ายรายละ 3,000 บาท

คนไทยกลับมาอีก 484 ชีวิต

ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตลอดวันที่ 13 มิ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคนไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษาตกค้างอยู่ในประเทศอินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเกาหลีใต้ รวมกว่า 480 คน ทยอยเดินทางกลับถึงไทย เริ่มจากเวลา 15.25 น. กลุ่มคนไทยในเมืองกัลกัตตา เมืองคยา และรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย จำนวน 109 คน ในจำนวนนี้เป็นพระภิกษุ 24 รูป ภิกษุณี 7 รูป แม่ชี 9 คน กลับถึงไทย โดยหลังผ่านการคัดกรอง พบผู้โดยสารมีไข้ 9 คน ต่อมาเวลา 18.56 น. คนไทยในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนทำงาน จำนวน 175 คน ได้เดินทางจากนครดูไบมาถึงไทย ซึ่งไม่พบคนมีไข้แต่อย่างใด และใน เวลา 21.45 น. กลุ่มคนไทยในประเทศเกาหลีใต้ 200 คน และนักธุรกิจสัญชาติเกาหลีใต้ 6 คน เดินทางมาถึง ซึ่งผู้ผ่านการคัดกรองโรคแล้ว จะถูกพาไปกักตัวตามสถานที่ที่รัฐกำหนด ใน กทม. สมุทรปราการปทุมธานี และ จ.ชลบุรี

วอนช่วย นศ.ติดค้างในอียิปต์

วันเดียวกัน ที่มัสยิดท่าอิฐ อ.เมืองนนทบุรี ญาติและผู้ปกครองนักศึกษาไทยติดค้างอยู่ในประเทศอียิปต์ เดินทางเข้าพบนายปรีดา เชื้อผู้ดี ที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี และนายก อบต.ท่าอิฐ เพื่อยื่นหนังสือส่งถึงรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ให้นำคนไทยมุสลิมและไทยพุทธติดค้างอยู่ในประเทศอียิปต์เดินทางกลับประเทศ นายปรีดาเผยว่า ขณะนี้มีคนไทยติดค้างที่ประเทศอียิปต์กว่า 4,000 คน มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 38 คน เมื่อไปรักษาแพทย์ให้แค่ยาพาราเซตามอลมากินเท่านั้น พร้อมแนะนำให้กลับมารักษาในไทยเพราะมีความสามารถในการรักษาดีกว่า ส่งผลให้คนไทยพยายามเดินทางกลับ แต่เที่ยวบินเปิดให้เดินทางกลับเพียงเที่ยวละ 200 คนต่อเดือนเท่านั้น คาดว่าอาจจะต้องใช้เวลานาน 8 เดือน กว่าจะเดินทางกลับมาหมด หลังจากนี้ตนจะนำหนังสือไปยื่นผ่านสำนักจุฬาราชมนตรี เพื่อประสานไปยังรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ให้ช่วยเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด

บราซิลตายอันดับ 2 ของโลก

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในต่างแดน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้อรวมทั่วโลกได้พุ่งสูงกว่า 7.75 ล้านคน เสียชีวิตมากกว่า 428,000 คน ขณะที่บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก หลังจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 41,901 คน แซงหน้าประเทศอังกฤษที่ตกไปอยู่อันดับ 3 มีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 41,481 คน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สื่อท้องถิ่นอังกฤษรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจริงในอังกฤษสูงกว่า 50,000 คน และยอดของทางการเป็นการนับเพียงจำนวนผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลเท่านั้น

มะกันอาจต้องคุมเข้มอีกรอบ

ส่วนที่สหรัฐอเมริกา สถาบันโรคติดต่อของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ รายงานยอดผู้เสียชีวิตในวันเดียว 839 คน ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวมในประเทศเพิ่มเป็น 116,831 คน ติดเชื้อรวมกว่า 2.11 ล้านคน ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อรายวันใน 20 รัฐของสหรัฐฯ รวมถึงรัฐที่มีประชากรมากที่สุดอย่างรัฐเท็กซัสและฟลอริดา ได้พุ่งสูงทำสถิติ ซึ่งแหล่งข่าวในกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯเผยด้วยว่า มีความเป็นไปได้ที่รัฐต่างๆ อาจจะต้องกลับมาใช้มาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด หากอัตราการติดเชื้อเพิ่มสูงไปมากกว่านี้

สเปนหยุดรายงานยอดตาย

ขณะที่ในภูมิภาคยุโรป สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างการเปิดเผยของนายเฟอร์นานโด ไซมอน หัวหน้าฝ่ายประสานงานเหตุฉุกเฉินของกระทรวงสาธารณสุขว่า ทางการสเปนระงับการแจ้งยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 มาตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. ส่งผลให้ยอดเสียชีวิตรวมในประเทศหยุดอยู่ที่ 27,136 คน เป็นเวลาเกือบสัปดาห์ โดยสาเหตุมาจากการที่ทางการสเปนสั่งให้ใช้ระบบการตรวจสอบแบบใหม่ที่จะมุ่งเน้นการตามรอยผู้ติดเชื้อรายใหม่แทน พร้อมมีคำสั่งให้หน่วยงานท้องถิ่นกลับไปทบทวนข้อมูลของผู้เสียชีวิตรายใหม่อย่างละเอียด เช่น ต้องระบุด้วยว่าเสียชีวิตเมื่อใด ซึ่งก่อนหน้านี้ เทศบาลแคว้นแอนดาลูเซียของสเปน วิจารณ์รัฐบาลกลางว่าไม่ให้เกียรติผู้ตาย และรายงานยอดเสียชีวิตต่ำกว่าที่ท้องถิ่นแจ้งไป

หน้ากากอนามัยล้นฝรั่งเศส

ที่ฝรั่งเศส สำนักข่าวเอพีรายงานว่า บริษัทด้านสิ่งทอหลายร้อยแห่งของฝรั่งเศส เรียกร้องให้รัฐบาลเข้าช่วยเหลือติดต่อหาลูกค้ามาช่วยซื้อหน้ากากอนามัย หลังจากการที่รัฐบาลขอความช่วยเหลือให้กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ ช่วยกันผลิตหน้ากากอนามัยในช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาด ส่งผลให้ปริมาณสินค้าเยอะเกินความจำเป็นกว่า 20 ล้านชิ้น

ผวาโควิด-19 ระบาดซ้ำในจีน

สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชีย วันเดียวกัน สำนักข่าวโกลบอล ไทม์ส ของรัฐบาลจีน รายงานว่าเทศบาลกรุงปักกิ่ง มีคำสั่งปิดตลาดค้าส่งสินค้าการเกษตร ซินฟาตี้ ในเมืองหลวงเป็นการชั่วคราว หลังการตรวจสอบพบว่า มีผู้ติดเชื้อก่อโรคโควิด-19 จำนวน 2 คน หลังเข้าจับจ่ายซื้อสินค้าในตลาดดังกล่าว นอกจากนี้ จากการส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจหาเชื้อ ยังพบไวรัสก่อโรคโควิด-19 ปนเปื้อนที่เขียงแล่ปลาแซลมอนของร้านค้านำเข้าปลาแซลมอนจากต่าง ประเทศแห่งหนึ่ง ส่งผลให้ห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ อูมาร์ต และตลาดเจาฉีฟาในกรุงปักกิ่ง สั่งระงับการจำหน่ายเนื้อปลาแซลมอนด้วย

สั่งปิดตลาดคุมเข้มทั้งเขต

ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างการเปิดเผยของนายฉู จุนเหว่ย เจ้าหน้าที่เทศบาลในกรุงปักกิ่ง ว่า ทางการจีนจะทำการตรวจหาเชื้อคนที่ข้องเกี่ยวกับตลาดซินฟาตี้ทั้งหมดกว่า 10,000 คน หลังจากที่เบื้องต้นตรวจเชื้อแล้ว 517 คน พบว่ามีผลเป็นบวกอย่างน้อย 45 คน และผู้ที่ถูกตรวจพบเชื้อทั้งหมด มิได้แสดงอาการป่วยแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้ทางการจึงออกคำสั่งล็อกดาวน์ตลาดทันทีตั้งแต่เวลา 03.00 น. ของวันที่ 13 มิ.ย. และให้ถือว่าขณะนี้เขตเฟิงไท่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดซินฟาตี้ เข้าสู่สถานการณ์ฉุกเฉินเหมือนอยู่ในภาวะสงคราม

อินเดียติดเชื้อวันเดียวกว่าหมื่นคน

ที่อินเดีย ซึ่งเพิ่งผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ อนุญาตให้เริ่มเปิดร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าไปเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ากระทรวงสาธารณสุขอินเดียรายงานว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในวันเดียวทำสถิติสูงสุด 11,458 คน ในจำนวนนี้กว่า 2,000 คน พบที่กรุงนิวเดลี ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมมีมากกว่า 309,000 คน เสียชีวิตรวม 8,890 คน โดยสถานการณ์แพร่ระบาดรุนแรงที่สุดในรัฐมหาราษฎร ทางภาคตะวันตกของประเทศ มีผู้ติดเชื้อรวมกว่า 100,000 คน แต่ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ที่รักษาหายดีเพิ่มเป็นกว่า 147,000 คน ขณะที่ อินโดนีเซีย พบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มถึง 1,014 ราย รวมเป็น 37,420 ราย โดยเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 43 ราย รวมเป็น 2,091 ราย ที่สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 347 ราย รวมเป็น 40,197 ราย เสียชีวิต 25 ราย มาเลเซียพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 43 ราย รวมเป็น 8,445 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเป็น 120 ราย

“ออสซี-กิมจิ” พบติดเชื้อใหม่

ส่วนที่ออสเตรเลีย ทางการออกมาประกาศว่าพบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นรายใหม่ 4 ราย ที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐใหญ่ที่สุดของประเทศ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่กว่า 7,300 ราย เสียชีวิต 102 ราย การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่บ่งชี้ว่าเชื้อโควิด-19 ยังแพร่ระบาดในชุมชนผู้ติดเชื้อที่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ สามารถแพร่เชื้ออย่างต่อเนื่อง และภัยคุกคามจากเชื้อโควิด-19 ในออสเตรเลีย ยังยากที่จะยุติลง ขณะที่ทางการทยอยผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่ เกาหลีใต้ มีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 49 คน ในจำนวนนี้ 44 คนพบในกรุงโซล

แอฟริกาใต้-ชิลี-เม็กซิโกยอดพุ่ง

สำหรับแอฟริกาใต้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 10,000 ราย ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ทำให้ยอดสะสม เป็น 61,927 ราย เสียชีวิต 1,354 ราย ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ 2 ใน 3 อยู่ที่ จ.เวสเทิร์น เคป ที่ตั้งเมืองเคป ทาวน์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง โดยแอฟริกาใต้มีผู้ติดเชื้อเกือบ 25 เปอร์เซ็นต์ของทวีปแอฟริกา ขณะที่ชิลีประเทศในภูมิภาคละตินอเมริกา พบผู้เสียชีวิตรายวันถึง 222 ราย รวมเป็น 2,870 ราย ติดเชื้อเพิ่มกว่า 6,700 ราย รวมเป็น 160,846 ราย ส่วนเม็กซิโกพบผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุด 5,222 รายรวมเป็น 139,196 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 504 ราย รวมเป็นเกือบ 140,000 ราย แต่กรุงเม็กซิโก ซิตี้ และเขตปริมณฑล ซึ่งมีผู้ติดเชื้อกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของทั้งประเทศ จะอนุญาตให้รถยนต์วิ่งให้ระบบขนส่งมวลชนให้บริการ และให้คนงานโรงงานกว่า 340,000 คน กลับไปทำงานได้อีกครั้งในสัปดาห์หน้า

Let's block ads! (Why?)



"ต่อ" - Google News
June 14, 2020 at 05:30AM
https://ift.tt/3fjXwHQ

ไทยไม่ติดโควิด 19 วัน แล้ว ให้ยกการ์ดต่อ - ไทยรัฐ
"ต่อ" - Google News
https://ift.tt/2TWExL0

No comments:

Post a Comment